ชมพระราชวังฤดูร้อน อี้เหอหยวนของซูสีไทเฮา

china-0011

หลายท่านไปเที่ยวกับทัวร์จีนแอบเหน็บมาว่าอย่างกับไปเที่ยวตามรอยหนังจีน และวันนี้ก็เช่นเดียวกันทัวร์จีนกำลังจะพาท่านไปชมความงามของพระราชวังฤดูร้อนของพระนางซูสีไทเฮา ที่มีชื่อว่า อี้เหอหยวน นั่นเอง

               ตั้งอยู่ในเขตไห่เตี้ยน ห่างจากตัวเมืองปักกิ่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 15 กิโลเมตร พระราชวังแห่งนี้เป็นวังกึ่งอุทยานที่สวยงามมาก สร้างขึ้นประมาณ 800 ปีแล้วสมัยราชวงศ์จิ๋น แต่ผู้ที่ทำให้สิ่งก่อสร้างในนี้สวยงามเป็นที่เลื่องลือ ก็คือพระนางซูสีไทเฮาแห่งราชวงศ์ชิง อันเป็นราชวงศ์สุดท้ายของจีน ชื่อเดิมมีเปลี่ยนกันไปหลายชื่อ แต่พระนางตั้งชื่อให้ใหม่ว่า อี้เหอหยวน แปลว่าอุทยานเพื่อพลานามัยอันผสมกลมกลืนกันได้ด้วยดี

เมื่อเดินเข้าไปในบริเวณ สิ่งแรกที่เห็นคือทะเลสาบกว้างใหญ่ ซึ่งเกิดจากแรงงานคนขุดขึ้นมา แล้วเอาดินที่ขุดพูนขึ้นไปเป็นเนินเขาข้างทะเลสาบนั้นเอง ผู้สร้างคือฮ่องเต้เฉียนหลง ใช้ในการฝึกซ้อมทัพเรือ สวนสาธารณะ “อี้เหอหยวน” หรือวังฤดูร้อน ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง เป็นพระราชอุทยานที่มีทัศนียภาพที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง มีเนื้อที่ทั้งหมด 2.9 ตารางกิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นทะเลสาบคุนหมิง ประกอบด้วยเนื้อที่ที่เป็นนํ้า 3 ส่วน เนื้อที่ที่เป็นดิน 1 ส่วน

เมื่อศตวรรษที่ 12 จักรพรรดิองค์หนึ่งแห่งราชวงศ์จินทรงมีพระราชโองการให้สร้างที่ประทับแรมขึ้นที่นี่เป็นครั้งแรก ต่อมาในหลายราชวงศ์มีการสร้างเสริมเติมต่อหลายครั้ง พระจักรพรรดิเฉียงหรงแห่งราชวงศ์ชิงทรงมีพระราชโองการให้สร้างขยายอุทยานแห่งนี้ให้กว้างออกไปและทรงให้ชื่อว่า อุทยาน “ชิงอีหยวน” เมื่อ ค.ศ. 1860 อุทยานแห่งนี้ถูกทหารพันธมิตร อังกฤษ – ฝรั่งเศสเผาทําลาย ต่อมาเมื่อ ค.ศ. 1888 พระนางซูสีได้ใช้งบประมาณกองทัพเรือของชาติซี่งเป็นเงินแท่ง 5 ล้านตําลึงมาสร้างอุทยานนี้ขึ้นใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็น “อี้เหอหยวน” อุทยานนี้มีชื่อเลื่องลือไปทั่วโลก ก็ด้วยมีทิวทัศน์สวยงาม

อุทยานอี้เหอหยวนประกอบด้วยสองส่วนคือ เขา “ว่านโซ่วซาน” และ ทะเลสาบ “คุนหมิงหู” บนเขาว่านโซ่วซานได้สร้างวิหาร ตำหนัก พลับพลา และเก๋งจีนอันงดงามไว้หลายรูปหลายแบบ ตั้งอยู่ลดหลั่นรับกันกับภูมิภาพ ที่เชิงเขามีระเบียงทางเดินที่มีระยะทางไกลถึง ๗๒๘ เมตร ลัดเลาะไปตามริมทะเลสาบคุนหมิงหู ในทะเลสาบคุนหมิงหูมีเกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่ง มี สะพาน 17 โค้งอันสวยงามเชื่อมติดกับฝั่ง ทั่วทั้งอุทยานจัดไว้ได้สัดส่วนงดงามตระการตาซึ่งแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของศิลปะในการสร้างอุทยานของจีน

ปีค.ศ.1860 สวนชิงอีหยวนถูกเผาทำลายโดยกองทหารอังกฤษและฝรั่งเศส ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปีค.ศ.1866 และเปลี่ยนชื่อมาเป็น อี๋เหอหยวนต่อมาได้ถูกกองทหารพันธมิตรของมหาอำนาจจักรวรรดินิยม 8 ประเทศ เผาทำลายอีกครั้งในปีค.ศ.1900 หลังจากนั้นราว 3 ปี จึงมีการบูรณะขึ้นอีกครั้ง

ปีค.ศ.1908 ภายหลังที่พระนางซูสีไทเฮาและจักรพรรดิกวงสูเสด็จสวรรคต พระราชวังฤดูร้อนที่ผ่านมรสุมมายาวนานก็ได้ยุติการรับใช้ราชสำนักชิง และเมื่อปีค.ศ.1911 ปีที่การปฏิวัติซินไฮ่ ล้มล้างราชสำนักแมนจูอุบัติขึ้น สวนแห่งราชสำนักอี๋เหอหยวนก็ได้ปิดฉากลง ตามการล่มสลายของราชวงศ์ชิง ก่อนที่จีนจะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ และได้รับการประกาศเป็นสวนสาธารณะในปี ค.ศ. 1924 โดยอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาเที่ยวชมได้

ภูเขาไฟฟูจิ

japan-034

สำหรับคนที่มีโอกาสได้ไปทัวร์ญี่ปุ่นมาแล้วเชื่อว่าสถานที่ๆ หนึ่งที่ทุกคนต้องได้ไปและปรารถนาว่าอยากกลับมาอีกครั้งหากได้มาที่ญี่ปุ่นอีกคงหนีไม่พ้นภูเขาไฟฟูจิอย่างแน่นอน เพราะด้วยความยิ่งใหญ่อลังการและความสวยงามอันกำเนิดจากธรรมชาติที่ไร้การปรุงแต่งจึงทำให้ภูเขาไฟฟูจิได้ชื่อว่าเป็นภูเขาที่สวยงามที่สุดติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกเลยทีเดียว

               ภูเขาไฟฟูจิได้ชื่อว่าเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นโดยมีความสูงประมาณ 3,776 เมตรครอบคลุมอาณาเขตของจังหวัดซึซึโอกะและจังหวัดยะมะนะซิซึ่งอยู่ทางตะวันออกของกรุงโตเกียวและด้วยความใหญ่โตของภูเขาไฟฟูจินี้เองจึงทำให้เราสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิทั้งลูกได้อย่างชัดเจนจากกรุงโตเกียวในวันที่ท้องฟ้ามีบรรยากาศสดใส

               สำหรับชื่อเรียกภูเขาไฟฟูจิที่เรียกกันว่า “ฟูจิซัง” นั้นก็สืบเนื่องมาจากในสมัยก่อนได้มีกรุ๊ปทัวร์ญี่ปุ่นได้ขึ้นมาเยี่ยมชมและเห็นว่าภูเขาลูกนี้มีลักษณะคล้ายกับเด็กน้อยจึงได้เรียกชื่อว่า “ฟูจิซัง” ส่วนที่มาของชื่ออีกตำนานหนึ่งของคำว่าฟูจิซังก็คือในสมัยก่อนตัวหนังสือภาษาญี่ปุ่นภาษาโบราณเรียกภูเขาไฟฟูจิว่าฟูจิยะมะแต่เนื่องจากตัวอักษรคันจิตัวที่ 3  สามารถอ่านได้ทั้งคำว่ายะมะ และ ซัง ดังนั้นจึงมีคนเรียกเป็น ฟูจิซัง นั่นเอง

               ปัจจุบันภูเขาไฟฟูจิได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การ UNESCO ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 2556 นี้เองและยังเปิดให้นักท่องเที่ยวและกรุ๊ปทัวร์ทั้งทัวร์ญี่ปุ่นและทัวร์ต่างชาติได้เข้าเยี่ยมชมตามช่วงระยะเวลาที่กำหนดจากรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่นเหมือนดังเช่นทุกปีครับ

ไปเที่ยวเกาหลีฤดูไหนดี

korea-064

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วสำหรับคนที่คิดจะไปทัวร์เกาหลีครับว่าประเทศเกาหลีนั้นเป็นประเทศที่มีฤดูทั้งหมด 4 ฤดู ได้แก่ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งในแต่ฤดูก็จะมีสภาพอากาศที่แตกต่างกันไปรวมถึงเทศกาลประเพณีในแต่ละฤดูที่แตกต่างกันอีกด้วยดังนั้นจึงมีคำถามสำหรับมือใหม่ที่กำลังจะคิดทัวร์เกาหลีว่าถ้าเช่นนั้นแล้วเราควรจะไปเที่ยวช่วงไหนของปีดีจึงจะคุ้มค่าและชมความสวยงามได้ดีที่สุดดังนั้นในตอนนี้จึงขอเอาใจคนที่กำลังคิดจะไปทัวร์เกาหลีด้วยเรื่องราวของสภาพอากาศแต่ละฤดูของประเทศเกาหลีครับ

ฤดูแรกที่จะพูดถึงก็คือฤดูร้อนของที่เกาหลีจะอยู่ระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ภูมิทัศน์โดยทั่วไปมองไปทางไหนก็เขียวขจี อุณหภูมิอยู่ระหว่างประมาณ 20-35 องศาเซลเซียส

ฤดูใบไม้ร่วง อยู่ระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน อุณหภูมิจะเริ่มลดต่ำลงมาอยู่ระหว่าง 5-15 องศาเซลเซียส ท้องฟ้าแจ่มใส ใบไม้เริ่มเปลี่ยนจากเขียวเป็นเหลือง สีทอง สีแดง และสีน้ำตาล ก่อนที่จะร่วงหล่นลงมาเป็นกองๆในช่วงท้ายๆของเดือนพฤศจิกายน เหลือไว้แต่เพียงกิ่งก้าน ช่วงนี้จึงเป็นช่วงทีเหมาะสมแก่การไปเที่ยวเกาหลีมากที่สุด

ฤดูหนาวจะอยู่ระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ อุณหภูมิจะติดลบถึง -10 องศาเซลเซียส ถ้าจะไปเที่ยวเกาหลีช่วงนี้ เสื้อผ้า เครื่องกันหนาวเตรียมให้พร้อม

ส่วนฤดูที่ 4 ฤดูสุดท้ายคือฤดูใบไม้ผลินั้นจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ต้นไม้จะเริ่มผลิใบและออกดอกท้องฟ้าแจ่มใส มีแสงแดด อากาศเริ่มอบอุ่น โดยอุณหภูมิอยู่ประมาณ 10-19 องศาเซลเซียส การท่องเที่ยวก็สวมเสื้อผ้าสบายๆเวลากลางวันก็เริ่มยาวนานขึ้น สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆก็ยืดเวลาเปิดออกไปถึง 18.00 น.

ทัวร์อินเดียไม่ไปไม่ได้แล้วกับ 9 สถานที่ทรงเสน่ห์ในอินเดีย ที่คุณไม่ควรพลาด

          india-003

        อินเดีย…เป็นอีกประเทศที่เก่าแก่และมีเสน่ห์มนต์ขลังไม่แพ้ชาติใดในโลก จึงไม่แปลกหากประเทศแห่งนี้ จะเป็นอีกสถานที่ซึ่งใครหลาย ๆ คนใฝ่ฝันจะไปสัมผัสกับความงามด้วยตาตัวองสักครั้ง อย่างไรก็ตาม หากคุณมีโครงการจะไปอินเดียเร็ว ๆ นี้ แต่ยังไม่รู้จะวางแผนการเที่ยวอย่างไรดี วันนี้ทัวร์อินเดียได้รวบรวมสถานที่เที่ยวน่าสนใจของอินเดียมาฝาก เพื่อเอาใจคุณโดยเฉพาะ ใครที่สนใจก็ลองไปอ่านกันดูเลย

 1. ทัชมาฮาล สัญลักษณ์แห่งรักนิรันดร์

          แน่นอนว่า ทัชมาฮาล (Taj Mahal) เมืองอักรานั้น เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจอยากเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง เป็นอันดับต้น ๆ เมื่อไปเยี่ยมชมประเทศอินเดียแน่นอน เพราะนอกจากจะมีความประณีตสวยงามราวกับภาพวาด จนได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในมรดกโลกแล้ว ทัชมาฮาลยังเป็นตัวแทนของความรักที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีวันเสื่อมคลายของ จักรพรรดิ ชาห์ ชหานชีร์ ที่สร้างแก่พระมเหสีอันเป็นที่รักของพระองค์อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ทองเที่ยวที่โรแมนติกสุด ๆ

2. เยี่ยมชม ออโรวิลล์ เมืองในอุดมคติ

          ออโรวิลล์ (Auroville) เมืองที่ก่อตั้งขึ้นมาในปี 1968 โดยมีจุดประสงค์ให้เป็นเมืองที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข โดยไม่เกี่ยงเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา หรือการเมือง โดยสถาปัตยกรรมในเมืองนี้ เป็นผลงานการออกแบบของ โรเจอร์ แองเกอร์ สถาปนิกชาวฝรั่งเศส สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ จึงเน้นไปที่เสน่ห์ของการผสมผสานระหว่างศิลปะแนวโมเดิร์นของฝั่งตะวันตกกับศิลปะดั้งเดิมของทางอินเดียเป็นหลัก

3. แวะชมธรรมชาติสวย ๆ ที่ดาร์เจียลิง

          หากคุณคิดว่าจะพบแต่ความร้อนระอุแห้งแล้งที่ประเทศอินเดียล่ะก็ผิดถนัด เพราะที่อินเดียนั้นก็มีสถานที่ร่มรื่นให้คุณได้พักผ่อนชื่นชมธรรมชาติสวย ๆ เช่นกัน ซึ่งคุณสามารถหาชมสิ่งเหล่านี้ได้ที่ ดาร์เจียลิง (Darjeeling) แหล่งปลูกชาของอินเดีย ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ที่มีให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมไม่รู้เบื่อ

4. สัมผัสเสน่ห์เมืองมุมไบ

          เป็นอีกหนึ่งเมืองที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อไปเยี่ยมชมประเทศอินเดีย โดยเฉพาะสำหรับคอหนังทั้งหลาย เพราะเป็นเมืองที่มีโรงภาพยนตร์ IMAX ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งที่นักช้อปทั้งหลายไม่ควรพลาดอีกด้วย

ทัวร์บาหลีพาไปเที่ยวแบบไม่รู้ลืม ตอนที่ 2-บางลี (Bangli)

bali-003

จากคราก่อนที่ทัวร์บาหลีพาคุณๆไปเที่ยวบาดุงกันแล้ว มาวันนี้จะพาลัดเลาะไปยังบาหลีกันบ้าง พร้อมแล้วไปกันเลย

          เมืองที่มีลักษณะภูมิศาสตร์ของภูเขาไฟ ซึ่งตรงกันข้ามกับนาข้าวแบบขั้นบันได อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำหลากสายในบาหลี นักท่องเที่ยวที่เข้าสู่เขตนี้มักจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของภูเขา ที่ลาดลงมาสู่ชายทะเล โดยมีนาข้าวขั้นบันไดตลอดสองข้างทาง

          สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ปากปล่องภูเขาไฟบาตูร์ ซึ่งเกิดจากภูเขาไฟระเบิดเมื่อประมาณ 30,000 ปีมาแล้ว ประกอบไปด้วยหมู่บ้าน เพเนโลกัน และ คินตามณี ที่มีวิวให้ชมอย่างเพลินตา รวมทั้งร้านขายผลไม้เมืองหนาวสด ๆ, ปุระเคเฮน วัดที่มีอายุเก่าแก่และมีขนาดใหญ่วัดหนึ่งในบาหลี มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่โดนเด่นไม่เหมือนใคร และมีความเชื่อว่าเป็นวัดที่สร้างขึ้น เพื่ออุทิศให้แก่เทพเจ้าแห่งไฟ

          ปุระอูลันดานูบาตูร์ วัดใหญ่และที่ถือได้ว่าสำคัญเป็นอันดับ 2 รองจาก วัดเบซากี มีวัดรวมอยู่ภายในถึง 9 วัด บรรยากาศของที่วัดถูกไอหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณ ทำให้ดูขลังและศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น, ทะเลสาบบาตรู ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในบาหลี ชาวบาหลีเชื่อว่าทะเลสาบแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นที่สถิตย์ของเทวีดานู เจ้าหญิงแห่งทะเลสาบ มีจุดชมวิวที่สวย ๆ หลายแห่ง นอกจากนี้ ยังมีหมู่บ้านริมทะเลสาบ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยังนับถือผีแบบโบราณ และมีธรรมเนียมการทิ้งศพให้แห้งบนดิน ก่อนนำไปฝังอีกครั้งหนึ่งด้วย

ทัวร์ไต้หวันแนะเตรียมตัวก่อนไปประเทศไต้หวัน

taiwan-003

เตรียมตัวเดินทางกันหรือยัง ? ถ้าพร้อมแล้ว ทัวร์ไต้หวันจะพาคุณไปรู้จักไต้หวันกันเลย
•    สภาพภูมิอากาศ – เกาะไต้หวันตั้งอยู่ระหว่างเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน จึงมีลักษณะภูมิอากาศแบบเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน เนื่องจากถูกล้อมรอบด้วยทะเลจึงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม ทำให้ที่นี่อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 22 องศาเซลเซียสต่อปี (ไม่รวมพื้นที่ๆ อยู่บนยอดเขาสูง) อาจจะมีหิมะในพื้นที่ๆ อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 3,000 เมตรขึ้นไป มีฝนตกชุกและมีพายุพัดผ่านบ่อยครั้ง
•    ภาษา – ใช้ภาษา จีนกลาง (Mandarin) เป็นภาษาราชการ ฮกเกี้ยน (หมิ่นหนาน) เป็นภาษาท้องถิ่นที่ใช้ทั่วไปคู่กับจีนกลาง ข้าราชการระดับสูงทั่วไปสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้
•     เวลา – เวลาในประเทศไต้หวัน เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง
•    เงินตรา – ใช้สกุลเงิน เหรียญไต้หวัน (New Taiwan Dollar : NTD) 35.06 NTD = 1 USD หรือ 1 เหรียญไต้หวัน = 1.2168 บาท
•    ระบบไฟฟ้า – ไต้หวันใช้กระแสไฟฟ้า แบบ 110 V. 60 Hz (ไม่เหมือนประเทศไทย) ปลั๊กเสียบเป็นแบบ ขาแบน 2 ขา ฉะนั้นท่านที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น กล้องวิดิโอ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องเป่าผม ควรมีปลั๊กแบบใช้ได้ทั่วโลก (Universal Adaptor) ติดตัวไปด้วย เพื่อความสะดวกของท่านกรุณาเตรียม ฟิล์มถ่ายรูป, แบตเตอร์รี่ ไปให้เพียงพอจากประเทศไทย
•    ฟิล์มและกล้องถ่ายรูป – ควรเตรียมไปให้เพียงพอโดยเฉพาะฟิล์มเพราะที่ต่างประเทศราคาจะสูงมากโดยเฉพาะ ตามสถานที่ท่องเที่ยว และควรเตรียมถ่านใส่กล้องถ่ายรูปไปด้วยเพราะอากาศเย็นถ่านจะเสื่อมสภาพเร็ว
•    การใช้โทรศัพท์ – โทรศัพท์ทางไกลจากไต้หวัน : รหัสโทรทางไกล (002 หรือ 009) + รหัสประเทศ (รหัสประเทศไทย 66) + รหัส พื้นที่ (เลข 0 ข้างหน้าเอาออก) + เบอร์โทรศัพท์
•    โทรศัพท์ถึงไต้หวันจากต่างประเทศ : รหัสโทรทางไกล+ 886 + รหัส พื้นที่ (เลข 0 ข้างหน้าเอาออก) + เบอร์โทรศัพท์
•    อาหารการกิน
อาหารแบบพื้นเมือง – เครื่องปรุงมักจะได้มาจากธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารป่า ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์ และ ความสดของส่วนประกอบ ยกตัวอย่าง อาหารพื้นเมือง ก็จะมีพวก เนื้อหมูป่าย่าง นกเสียบไม้ย่าง ผักสมุนไพรจากป่านำมาทอด เหล้าหมักข้าวฟ่าง ประเพณีการรับประทานอาหารแบบพื้นเมืองนี้ คนไต้หวันถือว่าเป็นการรักษาไว้ซึ่งจิตวิญญาณ และวัฒนธรรมของไต้หวัน ตัวอย่างเมนูอาหารแบบพื้นเมือง เช่น ลูกท้อ, ชา, แป้งห่อเนื้อหมูทอด, ไก่งวง, ดอกบัว, ก๋วยเตี๋ยวปลาไหลทอด, ปลาโอ
•    เมนูอาหารทั่วๆไป – เช่น ซุปปลาหมึก, ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก, ไก๋ตุ๋นน้ำมันงา, บะหมี่เนื้อตุ๋น, อาหารแบบหม้อซุปร้อนรสจัด และ อาหารแบบฮากกาหรืออาหารของจีนแคะ ซึ่งจะประกอบไปด้วย ไส้กรอกหมูเปรี้ยว ทอดกับขิงคลุกให้เข้ากัน และแป้งห่อข้าวเหนียวกับขิง ทอดแป้งจนมีสีน้ำตาลแดง

สถานที่เฉลิมฉลองคริสต์มาส

เมื่อคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึงนี้  กลายเป็นมหกรรมอันยิ่งใหญ่ที่คุณไม่ควรพลาด การเฉลิมฉลองอันน่าตื่นเต้นสุดแสนจะบรรยาย  กับบรรยากาศดี ๆ ที่นักท่องเที่ยวจะได้ติดตามและค้นหา  ว่าแต่สถานที่ไหนที่มีความเหมาะสมกับการเดินทางไปเฉลิมฉลองในเทศกาลคริสต์มาสนั้น  คุณอาจจะต้องคิดและไตร่ตรองใจตนเองดูสักหน่อย  แต่ถ้าหากคิดไม่ออกเราขอนำเสนอ  การเฉลิมฉลองคริสต์มาสหลากหลายสถานที่ภายในฮ่องกงนั่นเอง

ในเมื่อปีนี้  หากใครยังไม่รู้ว่าจะเดินทางไปเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่ไหน  การทัวร์ฮ่องกงเพื่อเดินทางไปเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสนี้  จึงเป็นโปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจยิ่งกว่า  เพราะฮ่องกงเป็นมหานครอันกว้างใหญ่ไพศาล  และที่สำคัญสุดฮิปและสุดฮอตไม่เหมือนใคร  และฮ่องกงก็ไม่เคยน้อยหน้าเมืองใดในโลก สำหรับการจัดเทศกาลที่มีความสำคัญและโดดเด่นเป็นอย่างมาก  โดยเฉพาะที่ฮ่องกงเป็นแหล่งเมืองและดินแดนแห่งทุก ๆ สิ่งที่ทุกคนต่างก็พากันสรรหา  ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของแฟชั่นหลากหลายสไตล์ทั่วทุกมุมโลกที่ฮ่องกงเก็บรวบรวมเอาไว้หมดทุกสถานที่  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารที่ฮ่องกงก็มีอย่างหลากหลาย  หรือแม้กระทั่งในเรื่องของเทคโนโลยีอันล้ำสมัย  ที่ฮ่องกงก็จัดหามาให้สำหรับทุกคน  และที่แน่นอนคืองานเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส  ที่ฮ่องกงจัดไว้ให้นักทัวร์ฮ่องกงตัวยงและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้สัมผัส  กับบรรยากาศแห่งความประทับใจ  และความสวยงามหลากหลายสถานที่ที่ถูกจัดขึ้นในเทศกาลนี้โดยเฉพาะ  สำหรับนักท่องเที่ยวหรือนักทัวร์ฮ่องกงที่เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้  รับรองได้ว่าคุ้มค่าและยิ่งใหญ่ต้อนรับเทศกาลในครั้งนี้กันเลย